Keyboard ดีๆ ที่น่าลงทุน

เรื่องของ Keyboard ก็ดูจะไม่ได้พิเศษอะไรมาก ก็เป็นอุปกรณ์ 1 ชิ้น ที่คนที่มีคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ก็ต้องใช้กัน แต่พอได้ลองเข้าไปในโลกของ Mechanical Keyboard มันก็เริ่มจะไม่ธรรมดาแล้วสิ!

---

ของที่ขาดไม่ได้

ของที่ขาดไม่ได้สำหรับสายการทำงานที่มี “คอมพิวเตอร์” เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ก็มีไม่กี่อย่างหรอกถ้าพูดถึงแค่ส่วนประกอบหลักๆ นะ แต่วันนี้จะมาพูดถึง 1 ในอุปกรณ์พื้นฐานอย่าง Keyboard (คีย์บอร์ด) หรือ แผงแป้นอักขระ (ตามที่ศัพท์บัญญัติใช้เรียกนะ)

ถ้าขาด keyboard ไปแล้วเราจะไม่สามารถพิมพ์คำสั่งอะไรเข้าไปในคอมฯ ของเราได้เลยใช่ไหมล่ะ! เพราะงั้น keyboard ไม่จำเป็นต้องแพงมากมาย ขอแค่เสียบกับคอมฯ แล้วพิมพ์ได้ก็จบแล้ว

จริงหรือ?!

มือไว ใจเร็ว

จขบ. ก็มีความคิดที่ว่า keyboard แค่ต่อคอมฯ แล้วใช้ได้ก็โอเคแล้วเหมือนกันนะ อย่างมากก็อาจจะซื้อแบบที่มันออกแบบสวยๆ มีไฟ RGB วิ่งไปวิ่งมางี้ แต่ไม่นานมานี้โดนน้องที่ทำงานป้ายยา keyboard มา พร้อมบรรยายสรรพคุณมาให้อย่างดี แต่ก็ยังมีอาการต่อต้านอยู่นะ (ฮา) เลยไปหาข้อมูล หาดูรีวิวเพิ่ม ไปๆ มาๆ ก็อยากได้ขึ้นมาซะงั้น อ้าว!

keyboard ตัวนั้นคือ Keychron K3 เป็น Mechanical Keyboard แบบ Ultra Slim แต่พอตัดสินใจได้แล้วว่าจะซื้อ ปรากฏว่า หมด! ถ้าจะสั่งจากเว็บของ keychronthailand ก็ต้องรออย่างเดียว แต่ถ้าไม่ได้ซีเรียสเรื่องต้องมีภาษาไทยบนแป้น ก็สามารถสั่งจากเว็บนอกได้แหละเพราะก็มีของอยู่ แต่ตัว จขบ. ไม่ถนัดการพิมพ์แบบสัมผัสเท่าไหร่ ประกอบกับไม่ได้รีบร้อนอะไรขนาดนั้น ก็เลยยอมรอดีกว่า ก็ลงชื่อรับแจ้งเตือนผ่านอีเมล์เอาไว้

จำไม่ได้ว่าลงชื่อไว้ตอนไหน แต่พอเห็นแจ้งเตือนอีเมล์ว่าของเข้าปุ๊ปก็กดเข้าเว็บซื้อปั๊บเลย (ฮา) เพราะก็ตัดสินใจไว้แล้วว่าจะซื้อ เลยไม่ลังเลอะไร (มือไวมากกก) แล้วหลังจากกดสั่งซื้อไปแล้วเพิ่งมาเห็นว่ารุ่นที่สั่งซื้อไปเป็นรุ่น upgrade ใหม่เป็น Keychron K3 V2 ที่มีการเพิ่มขาตั้งเป็น 2 ชั้น และปรับโครง keyboard ใหม่ให้แข็งแรงกว่าเดิม ก็เลย โอเค๊~~

การลงทุนที่ดี

ตอนที่ได้ของมารู้สึกว่ากล่องดูหรูหรา สวยงามมาก ชอบความเป็นเงาวิบวับบนกล่องด้วย ของข้างในก็ pack ไว้อย่างดีเลย มีแผ่นโฟมกั้นตัว keyboard ไว้ด้วยดีมากเลย

ความรู้สึกหลังได้ใช้

กะทัดรัด พิมพ์แล้วเข้ามือดี ปรับตัวไม่ยาก ความดังของสวิตช์ก็โอเค (Red Switch) หลังจากใช้ผ่านไปได้ระยะนึง ภาพรวมคือดีมาก มันคล่องมือกว่าการพิมพ์บน keyboard ของเครื่อง macbook ที่ใช้อยู่ก่อนหน้า ของอันนั้นเขาจะเป็นแบบแบนๆ ที่เหมาะกับการพิมพ์แบบสัมผัส ที่ จขบ. ดันไม่ค่อยถนัดอย่างที่เกริ่นไป

การทำความสะอาด

ตอนที่ใช้อยู่ก็จะเจอเรื่องของฝุ่นลงเหมือนกัน แต่ก็ทำความสะอาดง่าย เพราะสามารถถอด Keycap กับ Switch ออกมาทำความสะอาดได้ ชอบอารมณ์ที่แบบเหมือนถอดตัวเลโก้หน่อย ๆ มันเหมือนกับกำลังต่อของเล่นอยู่สนุกดี

ประเมินในระยะยาว

ถ้าเป็นสายที่ชอบเล่น Keycaps อาจจะติดนิดหน่อย เพราะในตอนนี้ยังไม่ค่อยมีให้เล่นมากเท่าไหร่ ด้วยความที่ K3 เป็นแบบ low profile switch ตัว keycaps เลยมีการพัฒนาใหม่ขึ้นแบบพิเศษเพื่อให้ใช้งานเข้ากันได้ ความหลากหลายของ keycaps ก็เลยจะน้อยกว่ารุ่นปกติหน่อย

แต่ถ้าไม่ได้กังวลเรื่อง keycaps แล้วละก็อย่างอื่นก็โอเคเหมือนรุ่นอื่นๆ แบบปกติเลย สามารถเปลี่ยน Switch เป็นแบบอื่นได้เหมือนกัน Blue Brown Red etc.

ส่วนที่รู้สึกว่าติดขัด

Keychron จะเป็น keyboard ที่สามารถใช้ได้ทั้งแบบสาย USB และเป็นแบบ Bluetooth ซึ่งหลังจากลองทดสอบการใช้งานทั้งสองแบบแล้วเจอว่า ถ้าใช้แบบ Bluetooth มันจะตอบสนองค่อนข้างช้า กว่าการต่อด้วย USB

อย่างถ้าไม่ได้พิมพ์งานประมาณ 2 นาที แล้วมาแตะที่แป้นพิมพ์ใหม่ มันเหมือนจะต้อง reconnect ใหม่อีกรอบถึงจะพิมพ์ได้ ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าอาจจะเป็นลักษณะของการขาดการพิมพ์แบบต่อเนื่องไป เลยต้อง reconnect ใหม่ ตอนนี้เลยใช้การต่อสาย USB เป็นหลักมากกว่า

ส่วนเรื่องการสลับ Devices หรืออุปกรณ์ ก็ถือว่าทำได้ดีและไวเลย ถ้าไม่หลงเองซะก่อนนะ

ส่งท้าย

ส่วนตัวรู้สึก Happy มากๆ กับการใช้ Keychron K3 ตัวนี้นะ พิมพ์มัน พิมพ์สนุกขึ้นเยอะ และด้วยความที่ตัวโครงค่อนข้างแข็งแรงมากๆ เลยมองว่าการซื้อ keyboard ในครั้งนี้น่าจะคุ้มค่าในระยะยาวเลย และยิ่งถ้ามี Keycaps ของตัว low profile มาให้เล่นเยอะๆ นี่น่าจะยิ่งสนุกกว่านี้เลยล่ะ

ถ้าใครกำลังมองหา Keyboard ใหม่อยู่ก็อยากจะแนะนำตัว Keychron ให้ได้ลองพิจารณากันไว้สักตัว เผื่อจะถูกจริตกัน

ปล. ไม่ได้รับการว่าจ้างใดๆ อันนี้รีวิวจากใจล้วนๆ เลยจ้า~

อ้างอิง

• keychron-k3 : https://www.keychronthailand.com/products/keychron-k3-ultra-slim-wireless-mechanical-keyboard